เล่าประสบการณ์อยู่บ้านอบรม

     วันนี้ ก็จะมาพูดถึงบ้านอบรมที่ฉันอยู่ ของกลุ่มเลารา สามพราน เป็นกลุ่มเณรีที่เอาจิตตารมภ์ของบุญราศีเลารา วีกุญญา มาเป็นแบบอย่าง กลุ่มเลาราไม่ได้มีแค่ที่เดียว แต่มีอยู่ 4 ที่ด้วยกัน แต่ในบล็อกนี้ ฉันก็จะมาพูดถึงประสบการณ์ที่เคยอยู่ที่กลุ่มเลารา สามพรานมา 3 ปี เป็นยังไง ก็ไปดูกันเล้ยยย 


       บ้านเลารา สามพราน ก็ตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2563 เป็นเวลา ฉันเริ่มเข้ากลุ่มเลารา ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2565.ตอนนั้นพวกเราก็มีอยู่กัน 13 คน ตอนนั้นที่เข้ามาฉันเป็นน้องเล็กสุด ประสบการณ์ตอนนั้น คือ ร้องไห้ทุกวันเพราะคิดถึงบ้าน และกลัวจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ แต่พี่ๆทุกคนในกลุ่มก็ใจดีมาก พยายามชวนคุย ทำความรู้จัก จนฉันค่อยๆชินกับทุกคนและทุกสถานที่ พวกเราอยู่กันแบบอบอุ่นมาก บางครั้งพวกเราก็หัวเราะกันอย่างเสียงดัง แต่ในบางครั้งก็มีเรื่องทะเลาะกันนิดๆหน่อยๆ แต่พวกเราก็จะเปิดใจคุยกันและกัน ในตอนนั้นซิสเตอร์ที่ดูแลพวกเรา ก็มีอยุ่ 2 ท่าน





ร่วมการแสดง เนื่องในวันฉลองแม่พระนิรมลทิน


รูปตอนฉลอง 150 ปี ของคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์


รูปตอนไปงาน 50 ปี และ 25 ปี ชีวิตสงฆ์




     ตอนฉันอยู่ ม.5 พวกเราก็เหลือกันอยู่แค่ 6 คน กับ ซิสเตอร์ผู้ดูแลของเราอีก 1 ท่าน ฉันเริ่มปรับตัวเข้ากับ ผู้คนและสถานที่ได้ดีมากขึ้น แต่ก็ยังคงร้องไห้ เพราะคิดถึงที่บ้านยุ ถึงแม้ว่าพวกเราจะเหลือกันอยู่แค่ 6 คน แต่พวกเราก็ยังคงอยู่กันแบบอบอุ่น ในทุกๆวัน พวกเราก็จะมีตารางในการทำแต่ละอย่างตามเวลา พวกเราจะต้องมาเข้าร่วมมิสซาในทุกเช้า และรับศีลมหาสนิท (กระซิบ ในมิสซา บางวันแอบหลับด้วย 555) ในบางโอกาสพวกเราก็จะสวดหรือไปงานฉลองบ่อยๆ และทำกิจกรรมด้วยกัน ในการอยู่บ้านอบรม ก็จะต้องมีการอบรมจากซิสเตอร์บ่อยๆ เพื่อสอนเรา ให้เราได้ฟัง ไตร่ตรอง คิดวิเคราะห์และนำเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ให้เกิดประโยชน์


รูปตอนฟังอบรม จากซิสเตอร์


ไปวัดนักบุญเปโตร



      นี่คือกลุ่มพวกเราตอนปัจจุบัน ในปี พ.ศ.2567 พวกเราก็อยู่ด้วยกัน 7 คน และฉันก็เป็นพี่ ม.6 แล้ว (น้องๆที่มาใหม่ ไม่มีใครร้องไห้เลย พวกเค้าเก่งมั่กๆ ) จะต้องเป็นแบบอย่างให้แก่น้องๆ ต้องให้คำแนะนำกับน้องๆในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบกลุ่ม และซิสเตอร์ที่ดูแลเราก็ยังคงเป็นซิสเตอร์ท่านเดิม (น้องๆตัวใหญ่กว่าพี่ๆอีกและหัวเราะเก่งด้วย) ตอนที่มีการจัดงานต่างๆ พวกเราก็ทำอย่างดี ตามที่ซิสเตอร์ได้แบ่งงานให้ ถึงจะเหนื่อย แต่พวกเราก็ทำโดยไม่บ่นเลย (อาจมีนิดนุง )






      และสุดท้ายนี้ การที่ฉันได้มาอยู่ที่นี่ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ได้ทรงชี้หนทางให้ฉันได้มารู้จักกับบ้านและผู้คนเหล่านี้ 
และรู้สึกขอบคุณซิสเตอร์และผู้มีพระคุณทุกท่าน ที่คอยสนับสนุนพวกเรา ให้มีโอกาสได้พบเจอกับสิ่งดีๆและได้ประสบการณ์ดีๆ 


หากผู้อ่านอยากทราบเรื่องราวของพวกเราต่อ ก็สามารถ ติดตามได้ทาง Facebook
👉👉: Laura Group Sampran










ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค

5 สถานที่ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่อยากไปสักครั้งในชีวิต